การขายแบบดั้งเดิม VS การขายออนไลน์
ก่อนอื่นขอย้อนไปในสมัยที่อินเตอร์เน็ตยังไม่แพร่หลายอย่างทุกวันนี้ ในสมัยนั้นการขายสินค้าใดๆก็ตาม จำเป็นต้องหาทำเลที่ดีเพื่อให้ลูกค้ามาเจอหน้าร้านของเราได้มากที่สุด โอกาสในการขายก็จะมากขึ้นตามไปด้วย ทำให้คนที่มีเงินทุนหนาสามารถเป็นเจ้าของกิจการได้มากกว่าคนธรรมดาทั่วไป ทั้งนี้การขายของลักษณะแบบนี้คือการขายแบบดั้งเดิม
การขายแบบดั้งเดิม แตกต่างจากการขายออนไลน์อย่างไร
อย่างที่เราทราบกันแล้วว่าการขายแบบดั้งเดิมคนที่สามารถเป็นเจ้าของกิจการได้จำเป็นต้องมีทุนหนากว่าใครๆ แล้วด้วยการแย่งชิงทำเลที่ดีที่สุดก็ยิ่งต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันสูงขึ้น คนธรรมดาแทบจะไม่มีความหวังในการพัฒนาตนเองมาเป็นนายตัวเองเลย เพราะกว่าจะเก็บเงินหรือหาทุนได้สักก้อนมาลงทุนเช่าที่ก็ยากพอสมควรแล้ว
การขายแบบดั้งเดิมนั้นมีผู้ขายเป็นศูนย์กลาง เพราะทุกอย่างจะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจตั้งราคาของร้านค้าเป็นหลัก ส่วนเราผู้ซื้อแทบจะไม่รู้เลยว่าคู่แข่งของร้านนี้อยู่ที่ไหนบ้าง สินค้าลักษณะเดียวกันนี้ที่ร้านอื่นขายเท่าไร ทำให้ผู้ซื้อจำต้องซื้อสินค้าในราคาที่ทางร้านกำหนด ส่วนการเจรจาต่อรองทำได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
เมื่อเข้าสู่ยุคการขายออนไลน์ รูปแบบและพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง ลูกค้าสามารถค้นหาข้อมูลและเปรียบเทียบราคาจากเว็บต่างๆได้ การซื้อขายสะดวกรวดเร็วไม่ต้องเดินทาง ยุคนี้ผู้ซื้อกลายเป็นศูนย์กลาง สินค้าที่ผลิตมาขายจึงต้องเน้นการมีส่วนร่วมกับลูกค้า ผู้ซื้อส่วนใหญ่ไม่ได้ดูว่าผู้ขายเป็นบริษัทใหญ่หรือไม่ แต่กลับมองที่คุณสมบัติของสินค้าเป็นหลัก หากตอบโจทย์ความต้องการก็กดสั่งซื้อทันที ทำให้ยุคนี้กลายเป็นยุคทองของผู้ค้ารายย่อย ใครมีสินค้าที่ดี มีไอเดียในการนำเสนอเด็ดๆ และสามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากที่สุด ผู้นั้นก็จะช่วงชิงตำแหน่งการค้าอันดับหนึ่งมาครอบครองได้
เปิดร้านออนไลน์นั้นง่าย แต่ทำให้สำเร็จนั้นยาก
เมื่อเข้าสู่กระบวนการขายออนไลน์ ใช่อยู่ที่ว่าใครอยากขายอะไรก็ขายได้ขอเพียงมีสินค้ามาโปรโมท แต่ก็ยังมีคำถามตามมาว่าแล้วทำไม? คนที่ประสบความสำเร็จถึงมีน้อยจัง!! ฟังแล้วหดหู่ใจยิ่งนัก ความหวังอยากเป็นเจ้าของกิจการดูเหมือนจะทำได้จริงแต่ก็ยังไม่ใช่เรื่องง่าย
สิ่งที่ทำให้คนประสบความสำเร็จในการขายออนไลน์น้อย เป็นเพราะยังขาดความรู้ในการทำการตลาดออนไลน์ มันไม่ใช่แค่จ่ายเงินซื้อโฆษณาแล้วนั่งรอออเดอร์จากลูกค้าอย่างเดียว หากแต่ผู้ขายต้องเข้าใจกลุ่มเป้าหมายให้มาก อาจต้องทำ Market Online Research เพื่อดูสถิติพฤติกรรมการซื้อสินค้าออนไลน์ว่าเป็นอย่างไร เขาต้องการอะไร เมื่อเรารู้สาเหตุหลักหรือรู้ถึงความต้องการของลูกค้าแล้ว เราก็จะสามารถนำเสนอสินค้าได้ตอบโจทย์ความต้องการได้ รวมถึงการทำให้ลูกค้าค้นหาเราเจอเป็นคนแรกๆในคำค้นหา โดยการทำ Search Engine Optimization หรือที่คนทั่วไปชอบเรียกกันว่า SEO นั่นเอง
การขายแบบดั้งเดิมกับการขายออนไลน์ จึงมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดยการขายสินค้าออนไลน์มีข้อได้เปรียบกว่าการขายแบบดั้งเดิมอยู่มาก คือมีต้นทุนที่ต่ำกว่า สามารถดูแลร้านได้จากทุกที่ที่เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ ไม่ต้องจ้างคนนั่งเฝ้าหน้าร้าน สามารถเปิดขายได้ตลอด 7 วัน 24 ชั่วโมง รองรับลูกค้าได้จากทั่วโลก สามารถเสนอสินค้าให้กับกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ เช่น คนชรา หรือคนพิการ ที่ไม่สะดวกเดินทาง เงินทุนและทำเลที่ตั้งก็ไม่ใช่ข้อจำกัดในการทำธุรกิจอีกต่อไป
สนใจขายเครื่องประดับออนไลน์กับ Gjhub ติดต่อเราได้ที่
Email: support@gjhub.com
Tel: 094 351 3837 หรือแอด Line ID: Gjhubthailand